วันพุธที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2559

KTM สัมภาษณ์ผู้บริหาร

10คำถามกับ สเตฟาน ปิแอร์
ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทKTM
นั่งพูดคุยกับผู้นำการผลิตมอเตอร์ไซด์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป





ขอขอบคุณภาพจากWebsite Top Speed 

ขอขอบคุณภาพจากWebsite Top Speed 

ยอดขายรถทางเรียบของKTMแซงหน้ารถทางฝุ่นเป็นครั้งแรกในปี2014 ต้องขอขอบคุณความนิยมอย่างมากในรถรุ่นใหม่อย่างRC390

สัมภาษณ์โดย อลัน แคทคาร์ท จากนิตยสารMotorcyclist 1ตุลาคม 2515

ประธานและประธานผู้บริหารบริษัทKTM สเตฟาน ปิแอร์

KTM ผลิตรถมอเตอร์ไซด์ในปี 2013 มากกว่า120,000คัน(รวมทั้งรถHusqvarna)จากโรงงานเมืองแมททิโฮเฟน ประเทศออสเตรีย สร้างรายได้สูงสุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท ( 716.4ล้านยูโร)และทำให้เป็นผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซด์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปนำหน้าแม้กระทั่งBMW กับบริษัทที่ก้าวผ่านไปสู่ความสำเร็จอย่างชัดเจน มีเวลาไหนที่ดีกว่านี้ที่จะได้พูดคุยธุรกิจกับคุณสเตฟาน ปิแอร์ผู้รับผิดชอบการดำเนินงานของทั้งKTMและHusky
ขอขอบคุณภาพจากWebsite Top Speed 

ขอขอบคุณภาพจากWebsite Top Speed 


มอเตอร์ไซด์คลิสท์: ยอดการผลิตเทียบกันระหว่างรถรุ่นทางเรียบ(On-road)กับรถรุ่นทางฝุ่นOff-
 road)ในปี2014เป็นอย่างไรบ้างครับ
สเตฟาน ปิแอร์: ปีนี้เป็นปีแรกที่ยอดผลิตรถทางเรียบแซงหน้ารถทางฝุ่น ถึงแม้ยอดขายรถทางฝุ่นจะสูงขึ้นก็ตาม แต่รถทางเรียบก็เติบโตเร็วกว่ามาก
                                                                       ขอขอบคุณภาพจากWebsite Top Speed 

: รวมทั้ง ดูเหมือนกับว่าคุณประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงHusqvarnaให้ดีขึ้น หลังจากซื้อ          จากBMW   
: ยอดขายHusky ในปี2014สูงสุดในรอบ110ปี ด้วยยอดขาย15,000คัน ซึ่งผมยอมรับว่าเกินกว่าที่ผม
     คาดหวังไว้ ผมเชื่อว่าตัวแบรนด์มีศักยภาพสูงมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศอเมริกา

: คุณประมาณการยอดขายHusky ไว้เท่าไร?
: Husky ต้องเป็นอันดับ3ในยุโรป ปกติแล้ว อันดับหนึ่งคือKTMชัดเจน  อันดับสองคือBMW คู่แข่งขัน
     ที่รู้จักกันดี อันดับ3ต้องเป็นHusky ดังนั้นการส่งข่าวสารที่ชัดเจนเช่นนี้ Huskyจึงต้อง
     เอาชนะDucatiให้ได้ก่อน ต่อจากนั้นจึงเป็นTriumph

: แล้วรถมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้าของคุณรวมอยู่ในการเติบโตนี้ด้วยไหม?
: เรามีลูกค้าเฉพาะกลุ่มที่ต้องการรถรุ่นนี้(รุ่น Freeride E)มาก คนเหล่านี้ต้องการรถที่เงียบเพื่อใช้
     ขับขี่เข้าสวนหรือไปหาเพื่อนบ้าน ผมชื่นชอบการนำไปใช้แบบนี้กับการขับขี่แบบสปอร์ตและการ
     แข่งขันด้วยเช่นกัน มิเช่นนั้นแล้วก็เหมือนแค่การเคลื่อนที่ด้วยพลังไฟฟ้าเท่านั้น มันไม่เซ็กซี่เลย แต่
     ผมก็เชื่อว่าในอีก10ปี การขับเคลื่อนในเมืองส่วนใหญ่จะขึ้นอยูกับยานพาหนะพลังไฟฟ้า
ขอขอบคุณภาพจากWebsite Top Speed 
KTM จะผลิตรถทางฝุ่นรุ่นFreeride E จำนวน2,000คัน ในปี2015 เป้าหมายคือผลิต10,000คันต่อปี ในปี2020


: ยอดขายจำนวนเท่าไรที่ทางKTMมองว่ารถพลังไฟฟ้าจะทำได้?
: เราเริ่มต้นที่ยอดการผลิต2,000คันในปี2015 สำหรับรถFreeride E สามรุ่น สำหรับรถที่ใช้ขับขี่ทั่วไป
     ตามท้องถนนจะผลิตในอีก2ปีต่อจากนี้ เอาเป็นว่า ในปี2020เราต้องการผลิตให้ได้10,000คันต่อปี
     ซึ่งรวมทั้งรุ่นทางฝุ่นด้วย การสร้างยอดขายให้ได้10,000คันต่อปีนั้นคือเป้าหมายของเราในปี2020

: ข่าวลือเกี่ยวกับเครื่องยนต์ที่ใช้ในMoto GPเป็นอย่างไรบ้าง? จะเป็นเครื่องยนต์แบบ75องศา V-4 
     ไหม?
: คงไม่ใช่ ข้อเท็จจริงคือน้อยกว่า90องศา เพื่อให้มีความยืดหยุ่นตอนช่วงของปลายทางสนามแข่งที่
     แตกต่างกันซึ่งเราได้เรียนรู้จากการศึกษาอย่างจริงจังจากคนอื่นๆ คุณคงได้เห็นโครงรถที่ใช้เหล็ก
     กลวง อย่างในการแข่งMoto 3 ที่เราได้แสดงให้โลกทั้งมวลเห็นว่าโครงเหล็กกลวง(Tubular Frame) ดี
     กว่าโครงอลูมิเนียม ซึ่งแตกต่างจากความความคิดของDucati พวกเขามีความคิดที่แตกต่างอย่างสิ้น
     เชิง

โครงการMoto GP มีกำหนดเวลาเมื่อไร?
: เดือนพฤษภาหรือมิถุนายนปีนี้ เครื่องยนต์จะทดสอบบนเครื่องทดสอบเครื่องยนต์ ผมคาดว่าเราจะ
     สามารถทดสอบรถครั้งแรกได้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เราวางแผนว่าจะเข้าแข่งขันในปี2017ตลอดฤดู
     การแข่งขัน แต่ในปลายปี2016เราอาจจะเข้าร่วมการแข่งขันสัก2-3สนามเพื่อทดสอบ


ขอขอบคุณภาพจากWebsite Top Speed 
ภายใต้การชี้นำอย่างระมัดระวังจากKTM  Husqvarna สุดปลื้มกับปีแห่งความสำเร็จอย่างยิ่งกับยอดจำหน่ายมากกว่า15,000คัน

: ยังไม่ได้พูดถึงการแข่งขันรถทางฝุ่นกันเลย ข้อเสนอแนะนี้จะทำให้เกิดการเปลี่ยนทิศทางนั้นไหม?
: ไม่ ไม่ ไม่เปลี่ยน คนภายนอกอาจดูเหมือนว่าทุกสิ่งกำลังมุ่งไปสู่รถทางเรียบเนื่องจากความสำเร็จ
     อย่างสูงในด้านยอดขาย แต่สำหรับรถทางฝุ่นเราก็ยังเป็นผู้นำอยู่และยังเหนือกว่า ฤดูการเปลี่ยนรุ่น
     ในปี2016ที่กำลังมาถึง คุณจะได้เห็นสายผลิตภัณฑ์โมโตครอสใหม่เอี่ยม ซึ่งติดตั้งเครื่องยนต์รุ่น 
     ใหม่  โครงรถใหม่ ใหม่ไปเสียทุกอย่าง

: ดูเหมือนว่า KTMมีทรวดทรงองเอวที่ดีทีเดียว คุณมีแผนในอนาคตสำหรับบริษัทคุณอย่างไร?
: เราวางแผนกลยุทธ์ในปี2020ด้วนความทะเยอทะยาน ในปีนั้นเราต้องการให้Huskyเป็นอันดับ3ใน
     บรรดาผู้ผลิตรถในยุโรปและเป็นอันดับ3ของโลกในบรรดาผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซด์เพื่อการกีฬา นั่น
     หมายความว่าเรามีผู้ผลิตญี่ปุ่นที่เราต้องเอาชนะให้ได้อยู่2แบรนด์ เราข้ามผ่านSuzukiไปได้แล้วใน
     ตลาดประเทศที่พัฒนาแล้วทั้งหมด  Kawasakiยังนำหน้าเราอยู่ แต่เราก็กำลังเข้าไปใกล้แล้ว

:จะบรรลุเป้าหมายได้ต้องทำอะไรบ้าง?
: เราจะผลิตรถ 250,000คัน หลากหลายรุ่น ตามส่วนของตลาดที่แตกต่างกัน ทั้ง2แบรนด์ ทั้งHusky 
     และKTM

หมายเหตุ:Husqvarna เรียกย่อๆว่าHusky



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น